พระราหู เป็นอสูรและเทวดานพเคราะห์องค์หนึ่งตามคติของศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ แต่ในทางดาราศาสตร์ดาวราหูไม่ได้มีตัวตนเหมือนกับดาวอื่น ๆ ในระบสุริยะจักรวาล แต่เป็นจุดตัดขาขึ้นระหว่าง ดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์ (Ascending Node) ถ้าจุดตัดนี้อยู่ในระนาบเดียวกันก็จะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา-จันทรุปราคา หรือมักเรียกกันว่า ราหูอมอาทิตย์และราหูอมจันทร์
พระราหูในพุทธศาสนา คัมภีร์อนาคตวงศ์ระบุไว้ว่า พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพยากรณ์เรื่องพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 10 พระองค์ในอนาคตให้แก่พระสารีบุตรเถระ ความโดยย่อคือ องค์พระศรีอาริยเมตไตรยจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเป็นปฐมที่ 1 และ อสุรินทราหู จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระนารทะ
ดาวราหูไม่ได้เป็นดวงดาวที่น่ากลัวเสมอไป บางครั้งจะให้ผลในเรื่องโชคลาภด้วย สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการไหว้ราหูนั้นคือ เป็นการเตือนสติตัวเองให้ระมัดระวังความคิดและการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ๆ ก็ตาม ควรใช้สติปัญญาเพื่อให้เกิดทางสว่างในใจ และดาวราหูก็จะส่งผลให้ชีวิตของเรามีความรุ่งโรจน์และความสำเร็จ
ปกตินิยมไหว้พระราหูในทุกวันพุธกลางคืน แต่ในปีนี้เป็นปีพิเศษที่มี การโคจรย้ายราศีของดาวราหูเกิดขึ้นในวันที่ 10 กันยายน 2563 เวลา 02.51 น. ดังนั้นจึงควรไหว้เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางดึก สามารถทำบุญตามกำลังตัวเลขพระราหูคือเลข 8 และเลข 12 ในช่วงเวลาที่สะดวก เช่น ใส่บาตรพระสงฆ์ 8 หรือ 12 รูปในตอนเช้า หรือถวายสังฆทานตอนกลางวัน ด้วยสิ่งของที่เกี่ยวกับแสงสว่าง เช่น บริจาคค่าไฟ หลอดไฟ เติมน้ำมันตะเกียง ทำบุญเกี่ยวกับการศึกษา หรือถ้าจะไหว้พระราหูที่บ้านสามารถทำได้ในช่วงเวลาหลังจาก 18.00 น. เป็นต้นไป
นอกจากนั้นช่วงที่เกิดปรากฏการณ์อุปราคา ทั้งสุริยุปราคาและจันทรุปราคา แนะนำให้สวดมนต์ด้วยบทบูชาพระราหู พระคาถาสุริยะบัพพา และพระคาถาจันทบัพพา
ดาวราหูมี เลข 8 เป็นสัญลักษณ์ และมีกำลังเท่ากับ 12 ดังนั้นสามารถจัดของไหว้ 8 หรือ 12 อย่างแล้วแต่ศรัทธา ของไหว้ควรประกอบไปด้วย
ไก่ดำต้ม
ปลาดุกย่าง
เหล้าดำ
กาแฟดำ
เฉาก๊วย
น้ำโค้ก (หรือน้ำอัดลม/น้ำหวานที่เป็นสีดำ)
ซุปไก่
งาดำ
ถั่วดำ
ข้าวเหนียวดำ
สาหร่ายดำ
ไข่เยี่ยวม้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น