วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

รวมมาแล้ว ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567

พฤศจิกายน 30, 2566 0 Comments

พิธีแต่งงานในปี 2567 เป็นโอกาสสำคัญที่คู่รักต้องการให้เป็นวันที่ดีและมีความทรงจำที่ดีที่สุด การเลือกฤกษ์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่มีทั้งการดูฤกษ์ทั้งวันและเวลา เพื่อให้มั่งคั่งไปกับพิธีมงคล แต่งงานนั้นเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ที่สำคัญ มีความเชื่อที่การดูฤกษ์ที่งดงามในเวลาที่เหมาะสมจะนำพาคู่รักสู่ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขและราบรื่น

สำหรับบุคคลที่มีแผนที่จะจัดงานแต่งงานในปี 2567 นี้ เราขอแนะนำฤกษ์แต่งงานปี 2567 เพื่อให้ได้รับพลังบวกและความโชคดีในวันสำคัญนั้น วิธีนี้เป็นวิธีทั่วไป แต่หากต้องการฤกษ์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น คู่รักสามารถนำวันเกิด เวลาเกิด หรือราศีของทั้งคู่ไปปรึกษาพระมหากาฬ หรืออาจารย์ที่เคารพไว้ เพื่อให้ได้ฤกษ์ที่เหมาะสมและทันท่วงทีในการเริ่มต้นชีวิตร่วมกัน

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนมกราคม

  • วันพฤหัสบดี ที่ 4 มกราคม 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนอ้าย (๑) ปีเถาะ
  • วันเสาร์ ที่ 6 มกราคม 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนอ้าย (๑) ปีเถาะ
  • วันเสาร์ ที่ 20 มกราคม 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนยี่ (๒) ปีเถาะ
  • วันอังคาร ที่ 23 มกราคม 2567 ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนยี่ (๒) ปีเถาะ
  • วันจันทร์ ที่ 29 มกราคม 2567 แรม ๔ ค่ำ เดือนยี่ (๒) ปีเถาะ

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนกุมภาพันธ์

  • วันศุกร์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนยี่ (๒) ปีเถาะ
  • วันอาทิตย์ ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนยี่ (๒) ปีเถาะ
  • วันพฤหัสบดี ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนยี่ (๒) ปีเถาะ
  • วันศุกร์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนสาม (๓) ปีเถาะ
  • วันจันทร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนสาม (๓) ปีเถาะ
  • วันพฤหัสบดี ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนสาม (๓) ปีเถาะ

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนมีนาคม

  • วันอาทิตย์ ที่ 3 มีนาคม 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนสาม (๓) ปีเถาะ
  • วันอังคาร ที่ 5 มีนาคม 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนสาม (๓) ปีเถาะ
  • วันเสาร์ ที่ 9 มีนาคม 2567 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนสาม (๓) ปีเถาะ
  • วันเสาร์ ที่ 16 มีนาคม 2567 ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนสี่ (๔) ปีเถาะ
  • วันอังคาร ที่ 19 มีนาคม 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนสี่ (๔) ปีเถาะ
  • วันอาทิตย์ ที่ 22 มีนาคม 2567 ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนสี่ (๔) ปีเถาะ
  • วันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม 2567 แรม ๔ ค่ำ เดือนสี่ (๔) ปีเถาะ

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนเมษายน

  • วันจันทร์ ที่ 1 เมษายน 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนสี่ (๔) ปีเถาะ
  • วันอาทิตย์ ที่ 7 เมษายน 2567 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนสี่ (๔) ปีเถาะ
  • วันจันทร์ ที่ 15 เมษายน 2567 ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนห้า (๕) ปีมะโรง
  • วันพฤหัสบดี ที่ 18 เมษายน 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนห้า (๕) ปีมะโรง
  • วันอาทิตย์ ที่ 21 เมษายน 2567 ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนห้า (๕) ปีมะโรง
  • วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน 2567 แรม ๔ ค่ำ เดือนห้า (๕) ปีมะโรง

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนพฤษภาคม

  • วันศุกร์ ที่ 3 พฤษภาคม 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนห้า (๕) ปีมะโรง
  • วันอังคาร ที่ 7 พฤษภาคม 2567 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนห้า (๕) ปีมะโรง
  • วันอังคาร ที่ 14 พฤษภาคม 2567 ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนหก  (๖) ปีมะโรง
  • วันศุกร์ ที่ 17 พฤษภาคม 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนหก (๖) ปีมะโรง
  • วันจันทร์ ที่ 20 พฤษภาคม 2567 ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนหก (๖) ปีมะโรง
  • วันอาทิตย์ ที่ 26 พฤษภาคม 2567 แรม ๔ ค่ำ เดือนหก (๖) ปีมะโรง
  • วันพฤหัสบดี ที่ 30 พฤษภาคม 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนหก (๖) ปีมะโรง

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนมิถุนายน

  • วันเสาร์ ที่ 1 มิถุนายน 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนหก (๖) ปีมะโรง
  • วันพฤหัสบดี ที่ 13 มิถุนายน 2567 ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนเจ็ด (๗) ปีมะโรง
  • วันอาทิตย์ ที่ 16 มิถุนายน 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนเจ็ด (๗) ปีมะโรง
  • วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน 2567 แรม ๔ ค่ำ เดือนเจ็ด (๗) ปีมะโรง
  • วันเสาร์ ที่ 29 มิถุนายน 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนเจ็ด (๗) ปีมะโรง

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนกรกฎาคม

  • วันจันทร์ ที่ 1 กรกฎาคม 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนเจ็ด (๗) ปีมะโรง
  • วันศุกร์ ที่ 5 กรกฎาคม 2567 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนเจ็ด (๗) ปีมะโรง
  • วันศุกร์ ที่ 12 กรกฎาคม 2567 ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนแปด (๘) ปีมะโรง
  • วันจันทร์ ที่ 15 กรกฎาคม 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนแปด (๘) ปีมะโรง
  • วันพฤหัสบดี ที่ 18 กรกฎาคม 2567 ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีมะโรง
  • วันอาทิตย์ ที่ 28 กรกฎาคม 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีมะโรง
  • วันจันทร์ ที่ 30 กรกฎาคม 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีมะโรง

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนสิงหาคม

  • วันเสาร์ ที่ 3 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีมะโรง สิงหาคม 2567
  • วันอาทิตย์ ที่ 11 สิงหาคม 2567 ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีมะโรง
  • วันเสาร์ ที่ 17 สิงหาคม 2567 ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีมะโรง
  • วันศุกร์ ที่ 23 สิงหาคม 2567 แรม ๔ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีมะโรง
  • วันอังคาร ที่ 27 สิงหาคม 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีมะโรง
  • วันพฤหัสบดี ที่ 29 สิงหาคม 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีมะโรง

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนกันยายน

  • วันจันทร์ ที่ 2 กันยายน 2567 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีมะโรง
  • วันจันทร์ ที่ 9 กันยายน 2567 ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะโรง
  • วันพฤหัสบดี ที่ 12 กันยายน 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะโรง
  • วันอาทิตย์ ที่ 15 กันยายน 2567 ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะโรง
  • วันเสาร์ ที่ 21 กันยายน 2567 แรม ๔ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะโรง
  • วันศุกร์ ที่ 27 กันยายน 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะโรง

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนตุลาคม

  • วันอังคาร ที่ 1 ตุลาคม 2567 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะโรง
  • วันเสาร์ ที่ 12 ตุลาคม 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะโรง
  • วันอังคาร ที่ 15 ตุลาคม 2567 ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะโรง
  • วันจันทร์ ที่ 21 ตุลาคม 2567 แรม ๔ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะโรง
  • วันศุกร์ ที่ 25 ตุลาคม 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะโรง
  • วันอาทิตย์ ที่ 27 ตุลาคม 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะโรง
  • วันพฤหัสบดี ที่ 31 ตุลาคม 2567 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนสิบเอ็ด(๑๑) ปีมะโรง

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนพฤศจิกายน

  • วันพฤหัสบดี ที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนสิบสอง(๑๒) ปีมะโรง
  • วันอาทิตย์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนสิบสอง(๑๒) ปีมะโรง
  • วันอังคาร ที่ 19 พฤศจิกายน 2567 แรม ๔ ค่ำ เดือนสิบสอง(๑๒) ปีมะโรง
  • วันเสาร์ ที่ 23 พฤศจิกายน 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนสิบสอง(๑๒) ปีมะโรง
  • วันจันทร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2567 แรม ๑๐ ค่ำ เดือนสิบสอง(๑๒) ปีมะโรง
  • วันศุกร์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนสิบสอง(๑๒) ปีมะโรง

ฤกษ์แต่งงาน ปี 2567 เดือนธันวาคม

  • วันเสาร์ ที่ 7 ธันวาคม 2567 ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีมะโรง
  • วันอังคาร ที่ 10 ธันวาคม 2567 ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีมะโรง
  • วันศุกร์ ที่ 13 ธันวาคม 2567 ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีมะโรง
  • วันพฤหัสบดี ที่ 19 ธันวาคม 2567 แรม ๔ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีมะโรง
  • วันจันทร์ ที่ 23 ธันวาคม 2567 แรม ๘ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีมะโรง
  • วันอาทิตย์ ที่ 29 ธันวาคม 2567 แรม ๑๔ ค่ำ เดือนอ้าย(๑) ปีมะโรง
ขอบคุณ ภาพถ่ายโดย Deesha Chandra: https://www.pexels.com/th-th/photo/35981/

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

จันทร์ซ้อนจันทร์ คือวันอะไร และ วิธีขอพร พร้อมบทสวดมนต์ เมตตามหานิยม สมหวังทุกประการ

พฤศจิกายน 26, 2566 0 Comments

 


"จันทร์ซ้อนจันทร์" คือวันที่มีพระจันทร์เต็มดวงและตรงกับวันจันทร์ ตามความเชื่อโบราณของคนไทยนั้น จันทร์ซ้อนจันทร์ถือเป็นวันมหาฤกษ์ มีคุณมากในทางมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ดังนั้นจึงมักมีการขอพร ขอพลังกันในวันจันทร์ซ้อนจันทร์นั่นเอง

วิธีขอพรในวันจันทร์ซ้อนจันทร์ มีดังนี้

  1. ทำจิตใจให้สงบ ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระจันทร์
  2. เตรียมเครื่องสักการะ เช่น ดอกไม้ ธูป เทียน น้ำสะอาด และของไหว้ตามความเชื่อส่วนบุคคล
  3. จุดธูป เทียน บูชาพระจันทร์
  4. สวดมนต์บูชาพระจันทร์
  5. อธิษฐานขอพรจากพระจันทร์
  6. ปิดท้ายด้วยการแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์
  7. บทสวดมนต์บูชาพระจันทร์ มีดังนี้

    "นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) โอมจันทรา ศศิประภา นะมะฮา (15 จบ หรือตามกำลังดาวจันทร์)

    สวดคาถายันทุนนิมิตตัง 1 จบ

    สวดคาถาพระคาถาชินบัญชร 1 จบ

    อธิษฐานขอพรจากพระจันทร์

    ข้าพเจ้าขอพรจากพระจันทร์ผู้มีอานุภาพยิ่งใหญ่ โปรดดลบันดาลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ประสบแต่ความสุขความเจริญ สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา ขอพรให้กิจการงานเจริญรุ่งเรือง มีเงินทองไหลมาเทมา ขอพรให้ความรักสมหวัง พบเจอคนดีคู่ครองที่ดี ขอพรให้ญาติมิตรสหายอยู่เย็นเป็นสุข เทอญ"

    นอกจากการขอพรแล้ว บางคนยังนิยมอาบแสงจันทร์ในคืนจันทร์ซ้อนจันทร์ด้วย โดยเชื่อว่าจะช่วยเสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยม และความโชคดีให้กับตนเอง

สำหรับปี 2566 จันทร์ซ้อนจันทร์ ตรงกับ วันลอยกระทง 2566 ในวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ทางจันทรคติพอดี จึงถือว่าเป็นวันจันทร์ซ้อนจันทร์


ขอบคุณภาพถ่ายโดย cottonbro studio: https://www.pexels.com/th-th/photo/8207754/

วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ที่มาของวันขอเงินพระจันทร์ และ การเตรียมตัวให้ปังในปี 2566

พฤศจิกายน 12, 2566 0 Comments


ที่มาของวันขอเงินพระจันทร์ ทำถูกแล้วรวยรับทรัยพ์เข้ากระเป๋าสตางค์

วันขอเงินพระจันทร์ หรือ วันอมาวสี ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำของทุกเดือน เป็นวันแรกของการกำเนิดพระจันทร์ในเดือนใหม่ ตามความเชื่อของคนไทยโบราณเชื่อว่าพระจันทร์เป็นเทพเจ้าแห่งดวงชะตา เป็นผู้ประทานโชคลาภ ความมั่งคั่ง และความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นในวันอมาวสีจึงมีการทำพิธีบูชาพระจันทร์เพื่อขอพรให้ชีวิตมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และมีเงินทองไหลมาเทมา

ที่มาของความเชื่อนี้สามารถสืบย้อนไปถึงสมัยโบราณของจีนและอินเดีย โดยชาวจีนเชื่อว่าพระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าจันทรา หรือ ฉางเอ๋อ ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความรักและความสวยงาม นอกจากนี้ชาวจีนยังเชื่อว่าพระจันทร์เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากพระจันทร์เป็นแหล่งกำเนิดของน้ำค้าง ซึ่งมีความสำคัญต่อการเกษตรเป็นอย่างมาก

ส่วนชาวอินเดียเชื่อว่าพระจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าพระจันทร์ หรือ พระศิวะ ซึ่งเป็นผู้ประทานโชคลาภและความมั่งคั่ง นอกจากนี้ชาวอินเดียยังเชื่อว่าพระจันทร์มีอำนาจในการชำระล้างสิ่งชั่วร้ายและปกป้องผู้คนจากภัยอันตราย

ความเชื่อเรื่องวันขอเงินพระจันทร์ได้แพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยโบราณ และยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยในแต่ละปีจะมีผู้คนจำนวนมากเดินทางไปขอพรพระจันทร์ในวันอมาวสี พิธีกรรมในการขอพรพระจันทร์ในวันอมาวสีโดยทั่วไป ประกอบด้วยการจุดธูปเทียนบูชาพระจันทร์ การสวดคาถาบูชาพระจันทร์ และการตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระจันทร์

นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าหากใครได้ทำความสะอาดกระเป๋าเงิน จัดเรียงธนบัตรให้เรียบร้อย งดใช้เงินในกระเป๋าที่ใช้ในการขอพรเป็นเวลา 1 วัน และตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากพระจันทร์อย่างตั้งมั่นแล้ว จะทำให้ชีวิตมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และมีเงินทองไหลมาเทมา

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเรื่องวันขอเงินพระจันทร์เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักวิทยาศาสตร์ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมพิธีกรรมในวันอมาวสีจึงควรทำด้วยความศรัทธาและตั้งมั่นในการขอพร

การเตรียมตัวในวันขอเงินพระจันทร์ มีดังนี้

  • เตรียมจิตใจให้สงบ ตั้งมั่นในการขอพร
  • ทำความสะอาดกระเป๋าเงิน จัดเรียงธนบัตรให้เรียบร้อย
  • งดใช้เงินในกระเป๋าที่ใช้ในการขอพรเป็นเวลา 1 วัน
  • เตรียมธูปเทียน ดอกไม้ ผลไม้ ขนมคาวหวาน
  • เตรียมคาถาบูชาพระจันทร์และคาถาขอเงินพระจันทร์
  • เลือกสถานที่ขอพรที่เหมาะสม

โดยรายละเอียดในแต่ละข้อมีดังนี้

การเตรียมจิตใจให้สงบ ตั้งมั่นในการขอพร

สิ่งสำคัญที่สุดในการขอเงินพระจันทร์ คือ การเตรียมจิตใจให้สงบ ตั้งมั่นในการขอพร หากมีจิตใจที่สงบและมุ่งมั่นในการขอพรแล้ว ก็จะมีโอกาสได้รับพรจากพระจันทร์มากขึ้น

ทำความสะอาดกระเป๋าเงิน จัดเรียงธนบัตรให้เรียบร้อย

ตามความเชื่อของคนไทยโบราณเชื่อว่า หากทำความสะอาดกระเป๋าเงิน จัดเรียงธนบัตรให้เรียบร้อยแล้ว จะทำให้เงินทองไหลมาเทมา

งดใช้เงินในกระเป๋าที่ใช้ในการขอพรเป็นเวลา 1 วัน

ตามความเชื่อของคนไทยโบราณเชื่อว่า หากงดใช้เงินในกระเป๋าที่ใช้ในการขอพรเป็นเวลา 1 วัน แล้ว จะทำให้เงินทองไหลมาเทมาเช่นกัน

เตรียมธูปเทียน ดอกไม้ ผลไม้ ขนมคาวหวาน

ธูปเทียน ดอกไม้ ผลไม้ ขนมคาวหวาน เป็นสิ่งของที่ใช้ในการบูชาพระจันทร์ สามารถเลือกเตรียมได้ตามความต้องการ

สำหรับปีนี้ วันขอเงินพระจันทร์ 2566 ตรงกับวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566

ขอบคุณภาพถ่ายโดย Joonas kääriäinen: https://www.pexels.com/th-th/photo/239107/

วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

เปิดที่มาของฮวงจุ้ยบ้าน ทำแล้วดีอย่างไร

พฤศจิกายน 08, 2566 0 Comments

"ฮวงจุ้ยบ้าน" คือการทายทาศนิยมที่เกี่ยวข้องกับบ้านหรือที่อยู่อาศัยของคน โดยใช้เครื่องมือทายทานหรือฮวงจุ้ยเพื่อดูดวงหรือทำนายสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวหรือบ้านของคนนั้น ฮวงจุ้ยบ้านสามารถใช้เพื่อหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องเช่นการเคลื่อนย้ายบ้าน, การปรับปรุงบ้าน, การเสริมสวยหรือรวมถึงการดูดวงเรื่องความสมหวังในบ้าน ๆ ของคนนั้น ๆ

ฮวงจุ้ยบ้านมีหลายวิธีการทำและวิธีทายทานแต่ละวิธีอาจแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคหรือที่แต่ละผู้ทำฮวงจุ้ยบ้าน แต่มักใช้สัญลักษณ์หรือสัตว์ในการทายทาน เช่น ใช้ภูเขา, ต้นไม้, สัตว์, หรือสิ่งของต่าง ๆ เพื่อดูดวงหรือทำนายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้าน ๆ ของคนนั้น ๆ ฮวงจุ้ยบ้านเป็นสิ่งที่น่าสนใจและมีความหลากหลายทางในการทำในแต่ละที่และวัฒนธรรมของคนต่าง ๆ บนโลกนี้.

ข้อดีของการปรับ ฮวงจุ้ยบ้าน

การทำฮวงจุ้ยบ้านนอกจากจะสนุกแล้วยังมีข้อดีบางประการด้วยนะครับ การทำฮวงจุ้ยบ้านสามารถช่วยในการเสริมความเข้าใจในเรื่องของบ้านหรือที่อยู่อาศัยของคนนั้น ๆ ได้ เพราะฮวงจุ้ยบ้านสามารถทำนายเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับบ้านได้ เช่น การเคลื่อนย้ายบ้าน, การปรับปรุงบ้าน, หรือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในบ้านในอนาคต

นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าการทำฮวงจุ้ยบ้านสามารถช่วยเสริมสร้างพลังบวกให้กับบ้านหรือที่อยู่อาศัย และช่วยให้คนในบ้านมีความสุขมีความสมหวัง ซึ่งบางครั้งการมีความเชื่อและความหวังนี้สามารถสร้างสรรค์บรรยากาศที่ดีในบ้าน

และท้ายที่สุด การทำฮวงจุ้ยบ้านสามารถเป็นโอกาสที่ดีในการมองที่อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัว และเป็นโอกาสที่ดีในการพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครอบครัวด้วย

ฮวงจุ้ยบ้านเรียกทรัพย์ มีอะไรบ้าง

  • ความสะอาด
  • สิ่งของสงเสริมการเงิน
  • เครื่องรางฮวงจุ้ย

วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566

เปิดที่มาของ พิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์

ตุลาคม 31, 2566 0 Comments


พิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ เป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมสำคัญของเทศกาลกินเจ โดยเชื่อว่าเป็นการชำระล้างสิ่งชั่วร้าย เคราะห์ร้าย และสิ่งอัปมงคลต่าง ๆ ออกไปจากตัวผู้เข้าร่วมพิธี เหลือไว้แต่สิ่งดี ๆ และความเป็นสิริมงคล

ที่มาของพิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์นั้น สันนิษฐานว่ามาจากความเชื่อของชาวจีนโบราณที่ว่า ไฟสามารถชำระล้างสิ่งชั่วร้ายได้ ดังนั้นจึงมีพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับไฟ เช่น การเผากระดาษเงินกระดาษทอง การจุดธูปเทียน และพิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์

ในพิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ จะมีการจุดไฟข้างใต้สะพาน โดยผู้เข้าร่วมพิธีจะต้องเดินข้ามสะพาน โดยถือ "โต้ยซี้น" หรือตุ๊กตาต่างตัว เขียนชื่อวันเดือน ปี เกิด ของตนไว้บนตัวตุ๊กตา เชื่อว่าตุ๊กตาต่างตัวนี้จะทำหน้าที่รับเคราะห์แทนตัวผู้เข้าร่วมพิธี เมื่อเดินข้ามสะพาน ไฟจะเผาสิ่งชั่วร้ายและเคราะห์ร้ายทั้งหมดออกไปจากตัวตุ๊กตาและตัวผู้เข้าร่วมพิธี

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่ออีกว่า สะพานสะเดาะเคราะห์เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ ดังนั้นการเดินข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์จึงเป็นเสมือนการขอพรจากเทพเจ้าและบรรพบุรุษให้ปัดเป่าเคราะห์ร้าย และประทานความสุขความเจริญให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธี

พิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์เป็นพิธีกรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังคงปฏิบัติสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งสีสันและไฮไลต์ของเทศกาลกินเจที่ได้รับความนิยมจากชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก

ติดตามข่าวเลขเด็ด ความเชื่อได้ที่ https://news.sanook.com/lotto/

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2566

รวมคาถาเรียกทรัพย์ เกจิอาจารย์ดัง สวดแล้วรวย สวดแล้วปัง ในปีนี้

ตุลาคม 30, 2566 0 Comments


คาถาเรียกทรัพย์ เป็นคาถาที่เชื่อกันว่าสามารถช่วยเรียกเงินทอง โชคลาภ เข้ามาให้กับผู้สวดภาวนาได้ คาถาเรียกทรัพย์ที่นิยมสวดกันมีดังนี้

  • คาถาเรียกทรัพย์ หลวงปู่ทวด

พุทธัง มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สะวาโหม สัมปะติจฉามิ นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม มิเตภาหุหะติ

  • คาถาเรียกทรัพย์ หลวงพ่อปาน

โอม มหาลาโภ โชคะวันตัง เอหิ จงมา ธะนะปาตัง มากะมายังอักขะโต ปาระติโย วันทิตตะวา นะมามิหัง

  • คาถาเรียกทรัพย์ หลวงพ่อเงิน

พุทธคุณ มหาลาโภ เงินไหลมาเทมา
โชคลาภ โภคทรัพย์ ธนะสมบัติ
จงมาสู่ข้าพเจ้า นะชาลีติ

  • คาถาเรียกทรัพย์ หลวงพ่อโต

นะโมพุทธายะ
พุทธเมตตา โมกรุณา
ธัมมะกรุณา สังฆะกรุณา
มหาลาโภ มหาโภคทรัพย์
จงมาสู่ข้าพเจ้า นะชาลีติ>> คาถาขอหวย ขอให้ถูกหวย เรียกโชคก่อนหวยออก>> คาถาเรียกเงินเข้ากระเป๋า สั้นๆ ท่องทุกวัน>> รวมเลขปฏิทินจีนทุกเดือนในปี 2566

วิธีการสวดคาถาเรียกทรัพย์

1. ตั้งนะโม 3 จบ 2. สวดคาถาเรียกทรัพย์ตามที่ต้องการ 3. สวดซ้ำ 3 จบ

การสวดคาถาเรียกทรัพย์ควรสวดเป็นประจำทุกวัน เช้า-เย็น หรือก่อนนอน เพื่อให้เกิดผลดีสูงสุด นอกจากนี้ ควรประกอบไปด้วยการทำบุญ รักษาศีล และช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อเป็นการเสริมดวงชะตาและเปิดรับโชคลาภอีกด้วย

เคล็ดลับในการสวดคาถาเรียกทรัพย์

  • สวดคาถาด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ตั้งใจ และมีความศรัทธา
  • สวดคาถาในสถานที่เงียบสงบ
  • สวดคาถาด้วยเสียงที่ดังพอได้ยิน
  • สวดคาถาอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ ความเชื่อเรื่องคาถาเรียกทรัพย์เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ผู้ที่สนใจสวดคาถาเรียกทรัพย์ควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

ที่มา ของพิธีปลุกเสก ตามความเชื่อโบราณ

ตุลาคม 30, 2566 0 Comments


ที่มาของพิธีปลุกเสกตามความเชื่อโบราณ สืบเนื่องมาจากความเชื่อของคนไทยในสมัยโบราณที่เชื่อว่า สรรพสิ่งในโลกนี้มีพลังอำนาจเหนือธรรมชาติแฝงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต หรือสถานที่ต่าง ๆ มนุษย์จึงพยายามหาวิธีที่จะดึงพลังอำนาจเหล่านั้นมาใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง โดยหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือ การปลุกเสก

พิธีปลุกเสก เป็นพิธีกรรมที่กระทำขึ้นเพื่อบรรจุพลังอำนาจเหนือธรรมชาติให้กับวัตถุหรือสิ่งของต่าง ๆ เพื่อให้วัตถุหรือสิ่งของเหล่านั้นมีคุณวิเศษตามที่ต้องการ เช่น มีพุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นต้น

พิธีปลุกเสกตามความเชื่อโบราณ มักประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้

  • การเตรียมวัตถุหรือสิ่งของที่จะปลุกเสก วัตถุหรือสิ่งของที่จะปลุกเสกนั้น มักเป็นวัตถุหรือสิ่งของที่มีความเชื่อกันว่ามีพลังอำนาจในตัวอยู่แล้ว เช่น ไม้มงคล หินมงคล วัตถุโบราณ หรือยันต์ เป็นต้น
  • การบวงสรวงบูชา เป็นการแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นมาช่วยอำนวยพรให้พิธีปลุกเสกสำเร็จลุล่วง
  • การบริกรรมคาถา เป็นการท่องคาถาหรือบทสวดมนต์เพื่อให้พลังอำนาจเหนือธรรมชาติเข้ามาสถิตในวัตถุหรือสิ่งของที่จะปลุกเสก
  • การประจุพลัง เป็นการทำให้วัตถุหรือสิ่งของที่จะปลุกเสกมีพลังอำนาจเหนือธรรมชาติโดยการสัมผัสหรือประจุพลังจากบุคคลที่มีพลังอำนาจ

พิธีปลุกเสกตามความเชื่อโบราณ มักกระทำโดยพระภิกษุหรือผู้ทรงคุณวุฒิทางไสยศาสตร์ โดยผู้ที่ปลุกเสกจะต้องเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ มีความรู้และทักษะในการปลุกเสก เพื่อให้พิธีปลุกเสกสำเร็จลุล่วงและวัตถุหรือสิ่งของที่จะปลุกเสกนั้นมีพลังอำนาจตามที่ต้องการ

ความเชื่อเรื่องพิธีปลุกเสกนั้น ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยคนไทยจำนวนไม่น้อยยังคงให้ความเชื่อถือในพิธีปลุกเสกและนิยมนำวัตถุหรือสิ่งของที่ปลุกเสกแล้วมาบูชาหรือพกติดตัว เพื่อเป็นเครื่องรางของขลังคุ้มครองตนจากอันตรายต่าง ๆ

นอกจากนี้ พิธีปลุกเสกยังถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประเพณีไทยที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยพิธีปลุกเสกมักจัดขึ้นในงานสำคัญต่าง ๆ เช่น งานบวช งานแต่ง หรืองานมงคลต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ผู้เข้าร่วมพิธี

ตัวอย่างพิธีปลุกเสก เป็นบุญตา อัศจรรย์บนท้องฟ้า เมฆเคลื่อนคล้าย "พระกริ่ง" ในพิธีปลุกเสก แห่ยกมือร้องสาธุ

วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สายสิญจน์ ผูกข้อมือข้างไหนดี

ตุลาคม 27, 2566 0 Comments

 


โดยทั่วไปแล้ว การผูกสายสิญจน์จะผูกข้อมือซ้าย เพราะเป็นแขนขวัญ เป็นแขนที่อ่อนแอใช้งานหนักไม่ได้ เป็นแขนที่น่ารักทะนุถนอม ในทางพระพุทธศาสนานั้น เชื่อว่าแขนซ้ายเป็นแขนที่รับพรจากผู้มีพระคุณ จึงเป็นที่นิยมในการผูกสายสิญจน์ไว้ที่ข้อมือซ้าย

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน การผูกสายสิญจน์ไม่ได้จำกัดเฉพาะข้อมือซ้ายเท่านั้น ยังสามารถผูกข้อมือขวาได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของผู้รับสายสิญจน์

สำหรับโอกาสในการผูกสายสิญจน์นั้น มักทำกันในงานมงคลต่างๆ เช่น งานบวช งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น การผูกสายสิญจน์เป็นการแสดงถึงความยินดีและชื่นชมต่อผู้รับสายสิญจน์ เป็นการมอบพรให้มีความสุขความเจริญ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

นอกจากนี้ การผูกสายสิญจน์ยังเป็นการผูกใจกันระหว่างผู้ให้และผู้รับ เป็นการแสดงความผูกพันและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

ดังนั้น การผูกสายสิญจน์ข้อมือข้างไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบของผู้รับสายสิญจน์เป็นหลัก ไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัวแต่อย่างใด

วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ราศีที่มีดวงสมพงษ์กัน ทำอะไรก็ดี ทำอะไรก็รวย ร่วมด้วยช่วยกัน

ตุลาคม 25, 2566 0 Comments


ตามความเชื่อทางโหราศาสตร์ ราศีที่มีดวงสมพงษ์กัน มักจะมีลักษณะนิสัยและไลฟ์สไตล์ที่คล้ายคลึงกัน ส่งผลให้ความสัมพันธ์เป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข ต่อไปนี้เป็นราศีคู่สมพงษ์กัน 4 คู่ ตามความเชื่อของโหราศาสตร์

  • ราศีเมษ (21 มี.ค. – 19 เม.ย.) จับคู่กับราศีมีน (19 ก.พ. – 20 มี.ค.) ราศีเมษเป็นราศีที่มีความกระตือรือร้นและรักอิสระ ในขณะที่ราศีมีนเป็นราศีที่มีความอ่อนไหวและโรแมนติก ทั้งสองราศีต่างก็มีความต้องการความรักและความเอาใจใส่ที่เหมือนกัน จึงสามารถเติมเต็มกันและกันได้อย่างดี
  • ราศีสิงห์ (23 ก.ค. – 22 ส.ค.) จับคู่กับราศีตุลย์ (23 ก.ย. – 22 ต.ค.) ราศีสิงห์เป็นราศีที่มีความมั่นใจและชอบเป็นจุดสนใจ ในขณะที่ราศีตุลย์เป็นราศีที่มีเสน่ห์และชอบเข้าสังคม ทั้งสองราศีต่างก็มีความต้องการความรักและความชื่นชมจากผู้อื่นที่เหมือนกัน จึงสามารถดึงดูดกันและกันได้อย่างดี
  • ราศีกันย์ (23 ส.ค. – 22 ก.ย.) จับคู่กับราศีกุมภ์ (20 ม.ค. – 18 ก.พ.) ราศีกันย์เป็นราศีที่มีความรอบคอบและละเอียดถี่ถ้วน ในขณะที่ราศีกุมภ์เป็นราศีที่มีความฉลาดและชอบคิดนอกกรอบ ทั้งสองราศีต่างก็มีความต้องการความซื่อสัตย์และความเข้าใจที่เหมือนกัน จึงสามารถไว้ใจกันและกันได้อย่างดี

สำหรับราศีที่คบกันแล้วไปด้วยกันได้ยาก

1. ราศีเมษและราศีกันย์
2. ราศีพฤษภและราศีพิจิก
3. ราศีเมถุนและราศีกุมภ์
4. ราศีสิงห์และราศีธนู
5. ราศีกรกฎและราศีมีน

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเรื่องราศีคู่สมพงษ์เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ได้มีเพียงดวงชะตาเท่านั้น คู่รักที่รักกันจริง ๆ ย่อมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข แม้จะไม่ได้เกิดราศีคู่สมพงษ์กันก็ตาม

ทำคุณคนไม่ขึ้น คืออะไร วิธีแก้อย่างไรให้ชีวิตเปลี่ยน

ตุลาคม 25, 2566 0 Comments


ทำคุณคนไม่ขึ้น หมายถึง การทำดีต่อผู้อื่น แต่ผู้อื่นไม่ตอบแทนความดีนั้น อาจเป็นเพราะผู้อื่นไม่เห็นความดีที่ทำ หรืออาจเพราะผู้อื่นเป็นคนเห็นแก่ตัว มักใช้เปรียบเปรยถึงคนที่ทำดีกับผู้อื่น แต่กลับได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดีหรือร้าย ทำให้เกิดความรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง หรือท้อแท้

ตัวอย่างประโยคที่คนมักพูดเกี่ยวกับคนทำคุณคนไม่ขึ้น

  • เธอทำคุณคนไม่ขึ้นจริงๆ ช่วยเหลือเขาทุกอย่าง แต่เขากลับตอบแทนด้วยการหักหลัง
  • ชีวิตฉันเหมือนทำคุณคนไม่ขึ้น ทำอะไรก็ไม่เห็นจะดีสักอย่าง
  • ฉันไม่อยากทำคุณคนไม่ขึ้นอีกแล้ว ต่อไปนี้ฉันจะช่วยเหลือคนอื่นเฉพาะคนที่ฉันมั่นใจเท่านั้น

ในความหมายทางพระพุทธศาสนา ทำคุณคนไม่ขึ้น หมายถึง การทำบุญหรือทำความดีกับผู้อื่น แต่ผู้อื่นไม่ตอบแทนความดีนั้น อาจเป็นเพราะผู้อื่นเป็นคนที่มีกรรมหรือกิเลสหนา จึงไม่สามารถมองเห็นความดีที่ทำ หรืออาจเพราะผู้อื่นยังไม่ถึงเวลาที่จะตอบแทนความดีนั้น การทำคุณคนไม่ขึ้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ทุกคนต้องพบเจอ

อย่างไรก็ตาม การทำคุณคนไม่ขึ้นไม่ได้หมายความว่าการทำดีนั้นไม่มีความหมายหรือไร้ค่า การทำดียังคงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะนอกจากจะทำให้เรามีความสุขแล้ว ยังเป็นการสะสมบุญกุศลไว้สำหรับชาติหน้าอีกด้วย

วิธีแก้กรรมทำคุณคนไม่ขึ้น

หากเรารู้สึกว่าตัวเองทำคุณคนไม่ขึ้น เราสามารถแก้กรรมได้ดังนี้

  • ทำความดีต่อไปอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่หวังผลตอบแทน
  • รักษาศีล 5 และหมั่นเจริญภาวนา
  • แผ่เมตตาให้กับผู้อื่น
  • ปล่อยวางความคิดและความรู้สึกเชิงลบ

การทำดีต่อไปอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่หวังผลตอบแทน จะช่วยให้เราสะสมบุญกุศลไว้สำหรับชาติหน้า และช่วยให้เราเข้าใจว่าการทำดีนั้นไม่ได้หวังผลตอบแทนจากผู้อื่น แต่หวังผลตอบแทนจากจิตใจของเราเอง

การรักษาศีล 5 และหมั่นเจริญภาวนา จะช่วยให้เราชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ และช่วยให้เรามองเห็นความดีงามของผู้อื่น

การแผ่เมตตาให้กับผู้อื่น จะช่วยให้เราเปิดใจให้กับผู้อื่น และช่วยให้เรามองเห็นความจริงใจและความดีงามของผู้อื่น

การปล่อยวางความคิดและความรู้สึกเชิงลบ จะช่วยให้เรามีความสุขและมองโลกในแง่ดีมากขึ้น

วันอังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ทำไมคนไทยนิยม เสริมเมตตามหานิยม เห็นผลทันตาจริงมั้ย?

ตุลาคม 24, 2566 0 Comments

คนไทยนิยมเสริมเมตตามหานิยมด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้

  • ความเชื่อทางศาสนา คนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งเชื่อว่าการเสริมเมตตามหานิยมจะทำให้ผู้คนรักใคร่เอ็นดู เป็นที่เมตตาของผู้ใหญ่ ช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิต
  • ความเชื่อในพลังอำนาจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนไทยเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระเครื่อง เครื่องราง คาถา ฯลฯ มีพลังอำนาจในการเสริมเมตตามหานิยมให้กับผู้บูชา
  • ความเชื่อในพลังจิต คนไทยเชื่อว่าพลังจิตสามารถส่งผลต่อความคิดและการกระทำของผู้อื่นได้ การเสริมเมตตามหานิยมจึงช่วยให้ผู้บูชามีเสน่ห์ดึงดูดใจ เป็นที่รักใคร่เอ็นดู

นอกจากนี้ คนไทยยังนิยมเสริมเมตตามหานิยมเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ เช่น เพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมดวงชะตา ช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การค้าขาย ฯลฯ

วิธีการเสริมเมตตามหานิยมของคนไทยมีหลากหลายรูปแบบ เช่น

  • การสวดคาถา คาถาเมตตามหานิยมมีหลายบท เช่น คาถาขุนแผน คาถาพระเจ้าสิบทิศ ฯลฯ
  • การบูชาเครื่องราง เครื่องรางเมตตามหานิยมที่ได้รับความนิยม เช่น พระขุนแผน พระนางกวัก แมลงภู่คำ ฯลฯ
  • การพกพาสิ่งของที่มีความหมาย สิ่งของที่มีความหมายทางเมตตามหานิยม เช่น ดอกกุหลาบ หินมงคล ฯลฯ
  • การปฏิบัติตนที่ดี คนไทยเชื่อว่าการเป็นคนดี มีเมตตา ช่วยเหลือผู้อื่น ก็จะเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของผู้อื่นเช่นกัน
  • แนะนำวิธีเสริมดวงเมตามหานิยม ของ อ.นำ เสขบุคคล

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเรื่องเมตตามหานิยมเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้น ผู้ที่สนใจเสริมเมตตามหานิยมควรใช้วิจารณญาณในการเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตนเอง

วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2566

คิดว่าดวงกินผัวมีจริงหรือไม่?

ตุลาคม 19, 2566 0 Comments


คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคล ความเชื่อเรื่องดวงกินผัวเป็นความเชื่อพื้นบ้านที่สืบทอดกันมายาวนาน เชื่อกันว่าผู้หญิงที่มีดวงกินผัวนั้นจะส่งผลร้ายต่อคู่ครอง ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิต การเจ็บป่วย การประสบอุบัติเหตุ หรือความล้มเหลวในชีวิต ความเชื่อนี้มักถูกอธิบายด้วยเหตุผลทางโหงวเฮ้งหรือดวงชะตา

จากมุมมองทางวิทยาศาสตร์ ความเชื่อเรื่องดวงกินผัวไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ สาเหตุที่ผู้หญิงบางคนอาจประสบปัญหาในชีวิตคู่หรือคู่ครองเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น โรคประจำตัว อุบัติเหตุ ปัจจัยแวดล้อม หรือความโชคร้าย อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเรื่องดวงกินผัวก็อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้หญิงบางคนได้ บางคนอาจรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือรู้สึกผิดต่อคู่ครองที่เสียชีวิต ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์กับคู่ใหม่ในอนาคต

ดังนั้น ความเชื่อเรื่องดวงกินผัวจึงเป็นเรื่องของความศรัทธาส่วนบุคคล ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะเชื่อหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือควรใช้วิจารณญาณในการรับฟังความเชื่อเหล่านี้ และไม่ควรทำให้ผู้อื่นรู้สึกแย่หรือรู้สึกผิดต่อความเชื่อของตนเอง

หากใครกำลังประสบปัญหาชีวิตคู่หรือคู่ครองเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือนักจิตวิทยา เพื่อรับความช่วยเหลือและคำแนะนำที่เหมาะสม

ลักษณะโหงวเฮ้ง ดวงกินผัว

  • หน้าผากกว้าง
  • คิ้วหนา
  • ตาโต ตาโปน มีแววตาดุ
  • จมูกเป็นสัน
  • มีโหนกแก้มใหญ่ หรือเป็นกระดูกสูงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
  • ปากใหญ่ ปากกว้าง
  • กรามใหญ่
  • มือ-เท้า ใหญ่เกินตัว
  • หน้าอกห่าง (ห่างกันมากกว่า4นิ้วมือ)

ลักษณะนิสัย ดวงกินผัว 

  • นอนหลับลึก ปลุกยาก นอนหายใจแรง หรือ ชอบนอนคว่ำ
  • ชอบเดินเขย่งขา ขย่มตัว เดินลงส้นเท้า/เดินเสียงดัง
  • เวลาพูดจะไม่สบตาผู้ฟัง และชอบพูดในลำคอ
  • พูดห้วน เสียงแข็งไม่มีจังหวะ

หากใครที่มีลักษณะโหงวเฮ้ง หรือนิสัย ตามด้านบนนี้ เกิน 3 ข้อขึ้นไป อาจเข้าข่ายดวงกินผัวได้ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลจนเกินไป เรามีวิธีแก้เคล็ดให้ทุกคนได้ไปทำตามกันค่ะ

วิธีแก้เคล็ด ดวงกินผัว 

  • ให้หาคู่หรือแต่งงานกับคนที่มี “ดวงกินเมีย” คือมีลักษณะดังกล่าวเหมือนกัน
  • หมั่นพากันไปทำบุญเป็นประจำ เดือนละ 2-3 ครั้ง เช่น การปล่อยปลาหน้าเขียง การทำบุญด้วยแสงสว่าง หรือการบริจาคโลงศพ
  • สวดมนต์เป็นประจำทุกวัน และเอ่ยชื่อทั้งเราและคนรัก เพื่อเป็นการสะสมบุญทั้งสองคนให้มีชีวิตคู่กันตลอดรอดฝั่ง
  • อยู่กันแบบไม่เปิดเผย ในที่นี้จะหมายถึง การไม่ยึดติดซึ่งกันและกันมากเกินไป เช่น เรื่องทรัพย์สิน มรดก ไม่ผูกพันกันทางกฎหมาย จะเป็นการแก้เคล็ดว่าไม่ใช่คนรักกันตามศาสตร์โบราณ

วันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ความเชื่อเกี่ยวกับพระราหู พร้อมคาถาบูชา

ตุลาคม 17, 2566 0 Comments


พระราหู เป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ หมายถึง ดาวเคราะห์ที่มีอิทธิพลในทางลบ มักให้ผลในทางลุ่มหลงมัวเมา ฝักใฝ่ในทางด้านมืด ในทางโหราศาสตร์ไทย พระราหูถือเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ การปฏิรูป การแปลงสภาพ การมองโลกในมุมมองใหม่ และความลึกลับ

ในความเชื่อของชาวไทยและชาวฮินดู พระราหูเป็นอสูรกายที่มีตัวเป็นมนุษย์ท่อนบนและท่อนล่างเป็นงู มีหัวเป็นมนุษย์มี 10 หัว มี 28 ตา 20 ปาก มีพาหนะเป็นม้าดำ และถือกระบองเป็นอาวุธ เชื่อกันว่าพระราหูเป็นผู้ทำให้เกิดสุริยคราสและจันทรคราส โดยเมื่อพระราหูกลืนกินดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงต่างๆ ขึ้นบนโลก เช่น ภัยธรรมชาติ โรคระบาด สงคราม เป็นต้น

นอกจากนี้ พระราหูยังถูกมองว่าเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและความมั่งคั่งอีกด้วย เชื่อกันว่าการบูชาพระราหูจะช่วยเสริมดวงในด้านโชคลาภ ความสำเร็จ เงินทอง

ความเชื่อเกี่ยวกับพระราหูมีดังนี้

  • พระราหูเป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ หมายถึง ดาวเคราะห์ที่มีอิทธิพลในทางลบ มักให้ผลในทางลุ่มหลงมัวเมา ฝักใฝ่ในทางด้านมืด
  • พระราหูเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ การปฏิรูป การแปลงสภาพ การมองโลกในมุมมองใหม่ และความลึกลับ
  • พระราหูเป็นอสูรกายที่มีตัวเป็นมนุษย์ท่อนบนและท่อนล่างเป็นงู มีหัวเป็นมนุษย์มี 10 หัว มี 28 ตา 20 ปาก มีพาหนะเป็นม้าดำ และถือกระบองเป็นอาวุธ
  • พระราหูเป็นผู้ทำให้เกิดสุริยคราสและจันทรคราส
  • พระราหูเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและความมั่งคั่ง

การบูชาพระราหูสามารถทำได้ทุกวัน แต่ส่วนใหญ่นิยมบูชากันในวันพุธตอนกลางคืน โดยบูชาด้วยธูปดำ 8 ดอก เทียนดำ 1 เล่ม ดอกไม้ 9 ดอก ของดำ 8 อย่าง เช่น ไก่ดำ เหล้า กาแฟดำ เฉาก๊วย ถั่วดำ ข้าวเหนียวดำ ขนมเปียกปูน ไข่เยี่ยวม้า เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าการบูชาพระราหูจะช่วยป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ช่วยให้พ้นเคราะห์กรรม เสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น และช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิต

ขั้นตอนการไหว้พระราหู พร้อมคาถาบูชาพระราหู

ทิศในการไหว้พระราหู ให้หันหน้าไปทาง ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และ ควรไหว้กลางแจ้ง ตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วยบทสวดดังนี้ ตั้งนะโม 3 จบ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ (3 ครั้ง) บทสวดคาถาบูชาพระราหู กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ พระคาถาสุริยะบัพพา กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ พระคาถาจันทบัพพา ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ กาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ คำถวายเครื่องสังเวยพระราหู นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ จะปุปผัง สักการะวันทะนัง สูปะพะยัญชะนะ สัมปันนัง โภชะ นานัง สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา หิตายะ สุขายะ พระราหูเทวา มะหิทธิกา เตปิ อัมเห อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ เยนะ สุเขมะจะฯ คาถาบูชาพระราหู (สวด 12 จบ) คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ ข้าพเจ้า (ชื่อนามสกุล) ขอบูชาพระราหูด้วยของดำ (8 หรือ 12) อย่าง ขอให้อิทธิพลของดาวราหูจงส่งผลดีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า ขอให้ได้พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดี ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคร้ายใด ๆ ขอให้เกิดความสุขในครอบครัว ขอให้ดาวราหูประทานพรโชคลาภและความสำเร็จแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ (อธิษฐานเรื่องอื่นๆ ได้ตามปรารถนา)

บ่อเกิดของความฝัน เกี่ยวกับผู้ใหญ่ ที่เรารู้จัก

ตุลาคม 17, 2566 0 Comments

 


บ่อเกิดของความฝัน เกี่ยวกับผู้ใหญ่ ที่เรารู้จัก มีหลายปัจจัย ดังนี้

  • ความประทับใจในวัยเด็ก เด็ก ๆ มักจะจดจำและซึมซับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวัยเด็กได้อย่างแม่นยำ ผู้ใหญ่ที่เรารู้จักในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครู เพื่อน หรือคนในครอบครัว ล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลต่อความคิดและความรู้สึกของเรา บางครั้ง ความประทับใจในวัยเด็กเหล่านี้ ก็อาจกลายมาเป็นความฝันของเราได้ เช่น เด็กที่ประทับใจในคุณครูสอนศิลปะ ก็อาจฝันอยากเป็นศิลปิน หรือเด็กที่ประทับใจในคุณพ่อนักบิน ก็อาจฝันอยากเป็นนักบิน เป็นต้น
  • ประสบการณ์ในชีวิต ประสบการณ์ในชีวิตของเรา ล้วนแล้วแต่มีส่วนหล่อหลอมตัวตนและความคิดของเรา ผู้ใหญ่ที่เรารู้จักในชีวิตประจำวัน ก็อาจให้ประสบการณ์บางอย่างแก่เรา ซึ่งอาจส่งผลต่อความฝันของเราได้ เช่น เด็กที่มีประสบการณ์ในการช่วยเหลือผู้อื่น ก็อาจฝันอยากเป็นจิตอาสา หรือเด็กที่มีประสบการณ์การถูกทอดทิ้ง ก็อาจฝันอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น เป็นต้น
  • จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เด็ก ๆ มักมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ที่สูง พวกเขามักจะฝันถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกินจริงหรือเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง ความฝันเหล่านี้ อาจเป็นการแสดงออกถึงความคิดและความรู้สึกที่ซ่อนเร้นของพวกเขา เช่น เด็กที่ฝันถึงสัตว์พูดได้ ก็อาจแสดงออกถึงความต้องการที่จะสื่อสารกับผู้อื่น หรือเด็กที่ฝันถึงโลกแห่งจินตนาการ ก็อาจแสดงออกถึงความต้องการที่จะหลบหนีจากความเป็นจริง เป็นต้น

ตัวอย่างของความฝันเกี่ยวกับผู้ใหญ่ ที่เรารู้จัก เช่น

  • เด็กที่ฝันอยากเป็นครู เพราะประทับใจคุณครูสอนศิลปะในวัยเด็ก
  • เด็กที่ฝันอยากเป็นนักบิน เพราะประทับใจคุณพ่อนักบิน
  • เด็กที่ฝันอยากเป็นจิตอาสา เพราะมีประสบการณ์ในการช่วยเหลือผู้อื่น
  • เด็กที่ฝันอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น เพราะมีประสบการณ์การถูกทอดทิ้ง
  • เด็กที่ฝันถึงสัตว์พูดได้ เพราะต้องการที่จะสื่อสารกับผู้อื่น
  • เด็กที่ฝันถึงโลกแห่งจินตนาการ เพราะต้องการที่จะหลบหนีจากความเป็นจริง

ความฝันเกี่ยวกับผู้ใหญ่ ที่เรารู้จัก อาจเป็นความฝันที่เรียบง่าย หรือซับซ้อนก็ได้ แต่ความฝันเหล่านี้ ก็ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อตัวเราทั้งสิ้น เพราะความฝันเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงความคิด ความรู้สึก และตัวตนของเรา

แนะนำคำทำนายฝัน

>> คำทำนายความฝัน ฝันเห็นผู้ใหญ่ ที่เคารพ พร้อมเลขเด็ด เสี่ยงโชค

ฝันเห็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ฝันว่าได้พบผู้ใหญ่ที่รู้จักหรือให้ความเคารพนับถือ หรือฝันเห็นผู้ใหญ่ที่รู้จัก ทำนายฝันได้ว่าท่านจะหมดเคราะห์หมดโศก หากกำลังเจ็บป่วยจะหายหรือมีอาการดีขึ้น รู้สึกคลายกังวลมากกว่าเดิม

บางตำราทำนายฝันไว้ว่า ฝันเห็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ หมายถึง จะได้โชคลาภ เผ็นผลดีส่งเสริมเรื่องอาชีพการงาน ตำแหน่งการงานดีขึ้น หรืออาจมีโชคลาภด้านการส่งเสริมชื่อเสียงที่ดีงาม เป็นที่รู้จักมากขึ้น เลขเด็ดจากความฝัน : ตามคำทำนาย ฝันเห็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ได้แก่ 27,50,77,83,64,33,33,83

วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ราหูย้าย มักจะเกิดอะไรขึ้น ?

ตุลาคม 10, 2566 0 Comments


ราหูเป็นดาวมืดในวิชาโหราศาสตร์ไทย ในทางโหราศาสตร์เชื่อว่าราหูเป็นดาวแห่งการลวงหลอก การเปลี่ยนแปลง และความลึกลับ ราหูย้ายหมายถึงการเคลื่อนที่ของดาวราหูออกจากราศีหนึ่งไปยังอีกราศีหนึ่ง ราหูจะใช้เวลาประมาณ 18 เดือนในการเคลื่อนที่ผ่านราศีหนึ่ง ดังนั้นจึงมีการย้ายราหูทุกปี

ราหูย้ายมักมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของคนเรา ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านอาชีพ การเงิน ความรัก หรือความสัมพันธ์ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ ขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคน

โดยทั่วไปแล้ว ราหูย้ายมักนำการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งและซับซ้อนมาให้ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความท้าทายและอุปสรรคใหม่ๆ ในชีวิตของเรา แต่ก็สามารถทำให้เราเติบโตและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้เช่นกัน

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงราหูย้าย:

  • การเปลี่ยนแปลงในอาชีพการงาน เช่น การเปลี่ยนงาน เริ่มต้นธุรกิจใหม่ หรือเลื่อนตำแหน่ง
  • การเปลี่ยนแปลงทางการเงิน เช่น การลงทุนที่ประสบความสำเร็จ หรือประสบปัญหาทางการเงิน
  • การเปลี่ยนแปลงในความรักและความสัมพันธ์ เช่น การเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ เลิกรา หรือมีการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์เดิม
  • การเปลี่ยนแปลงในสุขภาพและความเป็นอยู่ เช่น ประสบปัญหาสุขภาพ หรือค้นพบวิธีดูแลสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

หากต้องการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในช่วงราหูย้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมตัวและวางแผนล่วงหน้า ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการ:

  • ศึกษาดวงชะตาของคุณเพื่อดูว่าราหูย้ายจะมีผลกระทบต่อคุณอย่างไร
  • เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
  • มองหาโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
  • รักษาจิตใจให้สงบและเข้มแข็ง

ราหูย้ายเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและการเติบโต สิ่งสำคัญคือต้องมองหาแง่บวกจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ

หากใครกังวลใจเมื่อราหูย้ายสามารถแก้เคล็ดเสริมดวงราหูย้ายได้

1. ราศีที่ควรจะไปไหว้ขอพรจากราหู คือ ราศีกันย์ พิจิก กุมภ์ และมีน

2. ราศีที่ควรจะเปลี่ยนกระเป๋าเงินใบใหม่มาใช้ คือราศีเมษ สิงห์ ตุลย์ กุมภ์ มีน

3. ราศีที่ควรจะซื้อประกันสุขภาพ กับประกันอุบัติเหตุในปีนี้แก้เคล็ด คือราศีสิงห์ และพิจิก

4. ราศีที่ต้องควรแก้เคล็ดด้วยการบริจาคเงินทำบุญช่วยเหลือคน หรือสร้างสาธารณประโยชน์ให้มาก ๆ คือราศีเมษ และราศีสิงห์